ผิวไหม้แดด ดํา แก้ยังไง ให้ผิวกลับมาสวยใส ดูสุขภาพดี มาหาคำตอบกัน

ผิวไหม้แดด ดํา แก้ยังไง

ผิวไหม้แดด สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนที่ผิวได้รับความร้อนจากแสงแดดมาก หรือนานจนเกินไป เกิดขึ้นได้บนผิวหนังทั่วร่างกาย หนังศีรษะ ดวงตา และที่ริมฝีปากได้อีกด้วย จนทำให้เกิดการไหม้ขึ้นบนผิวหนัง ทำให้เกิดสีผิวคล้ำเสีย สีผิวไม่สม่ำเสมอเหมือนเดิม มีอาการระคายเคือง และถ้าหากมีอาการรุนแรงมากๆ จะทำให้เกิดอาการแสบร้อน มีตุ่มพอง และมีหนองได้ด้วย ดังนั้นทุกคนจึงไม่ควรมองข้ามในการรักษาผิวตัวเอง ให้ห่างไกลจากการถูกทำร้ายจากแสงแดด มาดูเคล็ดลับที่เรานำมาแชร์ให้คุณกันเลยดีกว่า

เช็คให้ชัวร์ผิวไหม้แดดของคุณ ต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูกี่วัน

ผิวไหม้แดดมีระดับความรุนแรงที่ต่างกัน ขึ้นอยู่กับระยะเวลา และปริมาณที่ผิวของคุณได้รับความร้อน โดยสามารถแบ่งระดับความรุนแรงของอาการได้เป็น 3 ระดับ ไปเช็คกันเลยว่าผิวของคุณอยู่ในระดับที่เท่าไหร่ และต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูกี่วัน

1. ระดับที่ 1 ใช้เวลาฟื้นฟูประมาณ 3 – 5 วัน

ระดับที่ 1 นี้ เป็นแค่ระยะเริ่มต้น สังเกตได้ว่าผิวของคุณจะมีความแสบร้อนเพียงเล็กน้อย สามารถทนได้ และภายใน 3-5 วัน บริเวณผิวที่ไหม้แดดจะลอกออกมาเอง เป็นการผลัดเซลล์ผิวหนังได้เองตามธรรมชาติ

2. ระดับที่ 2 ใช้เวลาฟื้นฟูประมาณ 7 วัน

ระดับนี้ผิวของคุณจะมีอาการแสบร้อน และคัน สามารถหายได้เองตามธรรมชาติเหมือนกับระดับที่ 1 แต่ต้องใช้ระยะเวลาฟื้นฟูนานกว่าเล็กน้อย

3. ระดับที่ 3 ใช้เวลาฟื้นฟูมากกว่า 14 วัน

ระดับที่ 3 เป็นระดับที่มีความรุนแรงสูงสุด ทำให้ผิวของคุณมีอาการบวมแดง ปวดแสบปวดร้อนมาก คัน และอาจเกิดตุ่มน้ำขึ้นก็เป็นได้ หากคุณเป็นผิวไหม้แดดอยู่ในระดับนี้ ควรไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำการรักษาอย่างถูกวิธี และทำให้ผิวของคุณกลับมาแข็งแรง ไม่มีปัญหาอื่นๆ ตามมา

5 วิธีแก้ผิวไหม้แดด ด้วยตัวคุณเอง ทำได้ง่ายๆ ที่บ้าน

1. ใช้ว่านหางจระเข้ ทาบนผิวที่ไหม้แดดทุกวัน

ว่านหางจระเข้เป็นพืชธรรมชาติ ที่จะช่วยปลอบประโลมผิวที่ไหม้แดดให้มีความชุ่มชื้น และลดการระคายเคืองได้ดีมาก เพราะมีสรรพคุณในการช่วยกระตุ้นเซลล์เนื้อเยื่อให้เจริญเติบโต ช่วยฆ่าเชื้อ และช่วยสมานแผลให้หายเร็วขึ้นนั่นเอง

2. ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อวัน

การดื่มน้ำ ดูเหมือนจะเป็นเรื่องธรรมดา แต่วิธีนี้เป็นวิธีสำคัญในการดูแลผิวที่ไหม้แดดเลยก็ว่าได้ เพราะน้ำเป็นองค์ประกอบสำคัญในร่างกาย ที่จะช่วยซ่อมแซมผิวที่ไหม้แดด เติมความชุ่มชื้น และป้องกันการเกิดภาวะการขาดน้ำได้

3. ประคบเย็น

ให้คุณใช้ผ้าชุบน้ำเย็นประคบบริเวณที่เป็น หรือจะแช่น้ำเย็นในอ่างอาบน้ำทั้งตัวเลยก็ได้ วิธีนี้จะช่วยลดการอักเสบ และลดอาการแสบร้อนได้ดี คุณสามารถทำได้เมื่อไปตากแดดแรงๆ เป็นเวลานานก็ได้ โดยไม่ต้องรอให้เกิดอาการผิวไหม้แดดก่อน

4. ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว มอยส์เจอไรเซอร์ (Moisturizer)

มอยส์เจอไรเซอร์ คือสกินแคร์ชนิดหนึ่งที่ทำหน้าที่เคลือบผิว ช่วยเติมความชุ่มชื้น ทำให้ผิวไม่แห้ง และสามารถช่วยลดอาการระคายเคืองจากผิวที่ไหม้แดดได้ดี

5. ปล่อยตุ่มน้ำให้แตก และแห้งไปเองตามธรรมชาติ

ถ้าคุณมีตุ่มน้ำที่เกิดขึ้นจากอาการไหม้แดด ควรหลีกเลี่ยงการแกะ หรือเกาตุ่มน้ำอย่างเด็ดขาด เพราะจะเป็นการเพิ่มอาการอักเสบ และเป็นการเพิ่มระดับความรุนแรงของอาการเข้าไปอีก ควรปล่อยให้ตุ่มน้ำแตก และแห้งเองตามธรรมชาติ และอย่าลืมหมั่นล้างทำความสะอาดแผลตุ่มน้ำที่แตกแล้วบ่อยๆ เพื่อเป็นการขจัดสิ่งสกปรก ทำให้แผลหายเร็วขึ้นอีกด้วย

รู้หรือไม่ ผิวไหม้แดด ไม่ได้เกิดจากแสงแดดเพียงอย่างเดียว

หลายคนอาจเข้าใจว่าผิวไหม้แดดเกิดจากการตากแดด หรืออาบแดดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งแสงแดดนั้นเป็นรังสียูวีมาจากแหล่งธรรมชาติ แต่ความจริงแล้วยังสามารถเกิดจากรังสียูวีเทียมได้ด้วย เช่น รังสียูวีจากหลอดไฟยูวี ที่มีใช้อยู่ในตู้อบผิวแทน เป็นต้น

โดยรังสียูวีที่เป็นสาเหตุหลักทำให้เกิดผิวไหม้แดดนั้นมีอยู่ 2 ประเภท คือ รังสียูวีเอ และรังสียูวีบี ถ้าหากผิวได้รับรังสียูวีทั้ง 2 ประเภทนี้สะสมเป็นเวลานานโดยไม่ได้รับการป้องกัน จะทำให้เกิดรอยแดง ริ้วรอยต่างๆ ผิวหมองคล้ำ และอาการรุนแรงของผิวที่ไหม้แดดตามมา รวมไปถึงความรุนแรงถึงขั้นเป็นจุดเริ่มต้นของมะเร็งผิวหนังก็ได้ ดังนั้น ก่อนออกจากบ้านคุณจึงควรทาครีมกันแดดทุกครั้ง รวมถึงการกางร่มเมื่อต้องออกไปเจอแสงแดดแรงๆ หากต้องการใช้ตู้อบผิวแทน ก็ควรอบผิวด้วยระดับความร้อนที่พอเหมาะ และอบในระยะเวลาที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำจะดีที่สุด เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ผิวโดนทำร้ายจากรังสียูวี

คนรักผิวควรรู้ ถ้าไม่อยากเป็นผิวไหม้แดด ต้องมีผลิตภัณฑ์เหล่านี้ติดบ้านไว้

  • ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป : ถ้าไม่อยากเป็นผิวไหม้แดด ต้องมีครีมกันแดดทั้งสำหรับทาหน้า และทาตัวติดบ้านเอาไว้ อย่าให้ขาด ควรทาครีมกันแดดก่อนออกแดดอย่างน้อยประมาณ 15 นาที
  • ลิปบาล์มที่กันแดดได้ : เลือกใช้ลิปบาล์มที่มีส่วนผสมของ SPF ที่จะช่วยทั้งเติมความชุ่มชื้น และปกป้องริมฝีปากจากแสงแดดได้ เพราะริมฝีปากเป็นผิวหนังที่บาง เป็นผิวส่วนที่โดนแสงแดดทำร้ายได้ง่ายมากที่สุดนั่นเอง
  • สกินแคร์ชนิดที่มีส่วนผสมของ มอยส์เจอไรเซอร์ (Moisturizer) : เป็นการบำรุงผิวในทุกๆ วัน เพื่อให้ผิวมีความชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้าน และเป็นการช่วยปลอบประโลมผิวจากการถูกทำร้ายจากแสงแดด ทำให้ผิวของคุณเนียนนุ่ม และแข็งแรงอยู่เสมอ

และทั้งหมดนี้ก็เป็นเคล็ดลับการแก้ผิวไหม้แดดที่เรานำมาแชร์ให้คุณ เห็นไหมว่าแต่ละวิธีนั้นไม่ยากเลย และคุณสามารถทำได้เองง่ายๆ ที่บ้าน เพราะอาการไหม้แดดสามารถหายได้เองตามธรรมชาติ เพียงแต่ต้องใช้ระยะเวลาในการฟื้นฟูผิว ตามระดับความรุนแรงที่เป็น แต่ถ้าหากคุณเป็นในระดับที่รุนแรงมาก ก็สามารถไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำการรักษาอย่างถูกวิธีได้โดยไม่ต้องกังวล เพียงเท่านี้คุณก็จะกลับมามีผิวสวยใส ดูสุขภาพดีเหมือนเดิมแล้ว